ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ผีกระสือ

ช่วงเดือนสิงหาคม คืนเดือนมืดของวันหนึ่ง เป็นวันหยุดที่ผมไม่อยากพลาด ที่จะออกไปตระเวนในท้องทุ้งนาเพื่อใส่เบ็ดเหยื่อ ที่ใช้วันนั้นเป็นใส้เดือนครับเพราะหางายครับ ผมไปกับน้องผู้ชายคนหนึ่งชื่อเฟิร์ด เฟิร์ดเรียนอยู่ม.3รูปร้างสูงใหญ่อ้วนท้วมและเป็นลูกชายคนเดียวของพรานป่าคนหนึ่งแต่เฟิร์ดมีความแตกต่างจากพ่อมากถึงเขาจะตัวโตแต่เขากลัวผีเป็นชีวิตจิตใจเลยหละครับ เฟิร์ดจะเดินตามผมตลอดเวลายิ่งดึกเขายิ่งต้องเข้ามาใกล้ เวลาผ่านไปจนประมาณสี่ทุ่ม เฟิร์ดเข้ามาใกล้ผมมาก และไม่ยอมพูดจาแม้ผมจะถามก็ไม่ยอมตอบ จนเรายามเบ็ดเสร็จไปหลายรอบ จึงกลับมากินข้าวที่บ้านเฟิร์ดจึงได้เล่าว่าเขาเจอผีกระสือ เป็นดวงไฟสีแดง วูบวาบกระพริบเป็นระยะ และบางครั้งก็หายไป มีหลายครั้งที่เขาเห็นแสงหยดลงพื้น เหมือนน้ำลายผีใหลบ่งบอกถึงความหิวโหย แน่นอนครับเฟิร์ดกินข้าวเสร็จเขาไม่ยอมมายามเบ็ดกับผม หมายความว่าผมต้องมายามเบ็ดคนเดียวครับ ด้วยความที่เราเคยสอนน้องไม่ให้กลัวเรื่องแบบนี้ ก็เลยจำเป็นต้องไปคนเดียว มันเริ่มเห็นอะไรบางอย่างเมื่อผมเดินไปสักระยะครับ มันเป็นแสงอย่างที่ว่าครับ
อยู่ไม่ไกลจากผมนัก ผมยอมรับว่าเริ่มกลัวและระแวงหลังนิดๆครับ ความกลัวกับความกล้ามันมาพร้อมๆกันอย่างบอกไม่ถูก ผมตัดสินใจจ้องมองดูระยะหนึ่ง แสงที่ว่านั้นอยู่สูงจากพื้นประมาน 5 เมตรด้วยความกลัวๆกล้าๆอยากเจอเผื่อจะได้ขอหวย ผมตัดสินใจเดิน ใกล้เข้าไปเรื่อยๆๆ...ผมเริ่มเห็นอะไรบางอย่างชัดขึ้น มันคือไฟจริงๆครับ กำลังไหม้โพรงไม้ที่อยู่สูงจากพื้น มันไม่สามารถมองเห็นได้ทุกด้านเพราะมันอยู่ในโพรงไม้ ชาวบ้านคงจุดตอไม้ด้านล้าง แต่มันคงลอดโพรงขึ้นไปติดบนที่สูงในโพรงไม้ เวลาลมพัดมาแสงก็จะเจิดจ้าวูบวาบในบางครั้งก็จะมีสเก็ดปริวไปทั่วมองเห็นได้ชัดเพราะเป็นคืนเดือนมืดครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. ผีที่น่ากลัวที่สุดคือผีดิบ ส่วนผีสุกนั้นไม่น่ากลัวนัก (ผีดิบคือคนเรานี่เอง)

    ตอบลบ